T'GRM

วันจันทร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

BigBang - GoodBye Stage

SBS’s Inkigayo ในสัปดาห์นี้เต็มไปด้วยความเฮฮา การแสดงที่สนุกสนานจากเหล่าศิลปินที่ขึ้นแสดง
ในช่วงหนึ่งของรายการ รางวัลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ไม่ได้ประกาศในรายการ แต่ออกมาประกาศและมอบรางวัล
ในวันนี้ ก็คือ BIGBANG ขอแสดงความยินดีสำหรับชัยชนะ 
สำหรับ Take 7 ในสัปดาห์นี้ก็คือ 
BIGBANG (“Love Song“), Rainbow (“To Me“), Girl’s Day (“Twinkle Twinkle“), f(x) (“Pinocchio“), 4minute (“Mirror“), Yangpa (“It Hurts“),และ
 Clover (“La VidaLoca“)
และ รางวัล ก็ตกเป็นของ Big Bang  ซึ่งเป็น รางวัลที่ 3 ในการโปรโมทอัลบัมชุดนี้

วันอาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

Love Song" แรงไม่หยุด ฉุด "Big Bang" ชนะ K-Chart!

  ผู้ชนะชาร์ต K-Chart ประจำสัปดาห์ยังไม่ได้ประกาศในตอนที่ 600 ของรายการ Music Bank เมื่อศุกร์ที่แล้ว แต่ผลได้ประกาศผ่านทางเวบไซท์ในวันที่ 25 เมษายน
วง Big Bang เป็นผู้ชนะ K-Chart ด้วยเพลง Love Song จากอัลบั้มรีแพคเก็จของพวกเขา ซึ่งคะแนนของพวกเขาคือ 10,757 และวง C.N.Blue มีคะแนน 10,030

ด่วน! "Big Bang" ยกเลิกคอนเสิร์ตที่โตเกียวและโยโกฮาม่า

  เดิมทีที่วง Big Bang มีแผนงานที่จะแสดงทัวร์คอนเสิร์ตในเดือนพฤษภาคม แต่แผนงานได้ถูกเปลี่ยนแปลง ทาง YG Entertainment เพิ่งประกาศว่า พวกเขาจะเลื่อนการแสดงทัวร์คอนเสิร์ตที่โตเกียวและโยโกฮาม่า

   โดยเริ่มในวันที่ 10 และ 11 พฤษภาคม ที่โอซาก้า พวกเขาจะเปลี่ยนไปแสดงที่ชิบะในวันที่ 13 ถึงวันที่ 15 พฤษภาคม และที่นาโงย่าในวันที่ 17 และ 19 พฤษภาคม

   ตัวแทนของทาง YG กล่าวกับทาง Star News ว่า “เพื่อเป็นการสนับสนุนแฟนๆ ชาวญี่ปุ่น หลังจากที่เกิดภัยธรรมชาติในเดือนมีนาคม สมาชิกวง Big Bang ตั้งใจจริงในการที่จะยังคงจัดคอนเสิร์ตนี้ แต่โชคไม่ดีที่ After Shock นี้ พวกเราจึงให้ความสนใจตามที่แฟนๆเกาหลีเป็นห่วงในความปลอดภัยวง Big Bang ดังนั้นจึงจะมีการเลื่อน”

  พวกเขากล่าวเพิ่มว่า “ที่โอซาก้า, ชิบะ และนาโงย่า บัตรถูกจำหน่ายหมดแล้วและเพื่อที่จะรักษาที่ให้กับแฟนๆและวง Big Bang ตัดสินใจที่จะเปิดคอนเสิร์ต ตัวแทนของพวกเราจะไปที่คอนเสิร์ตอีก 2 ครั้งเพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและการปกป้องดูแลที่เหมาะสม”

  หัวหน้าวง G-Dragon กล่าวว่ารายได้ของสมาชิกจากคอนเสิร์ตนี้จะนำไปบริจาคเพื่อช่วยผู้ประสบภัยที่ญี่ปุ่น

อัลบั้มใหม่ของวง Big Bang จะร่วมงานกับโปรดิวเซอร์อินเตอร์?

     วง Big Bang ประกาศเกี่ยวกับแผนสำหรับอัลบั้มใหม่อีกอัลบั้ม
ในวันที่ 17 มีนาคมที่ตัวแทนของ YG Entertainment กล่าวกับทาง Star News ว่า “วง Big Bang จะกำลังโปรโมทที่เกาหลีเยอะมากในปีนี้ และตอนนี้กำลังเตรียมตัวสำหรับอัลบั้มใหม่เพื่อเซอร์ไพร์สแฟนๆ”
     ทาง YGE เปิดเผยว่า วง Big Bang กำลังวางแผนที่จะเข้าไปอัดบันทึกเสียงที่สตูดิโออีกครั้งทันทีที่พวกเขาปิดการโปรโมทเพลง Tonight และจะเริ่มทัวร์คอนเสิร์ตที่ประเทศญี่ปุ่น และมีข่าวรายงานออกมาว่า พวกเขากำลังร่วมมือทำงานกับโปรดิวเซอร์ระดับอินเตอร์อีกด้วย
      ตัวแทนกล่าวเพิ่มว่า “แฟนๆ เพลงจะสามารถรู้จักโปรดิวเซอร์เหล่านี้ทันทีที่เอ่ยชื่อออกมา พวกเขาเป็นที่รู้จักดีทั้งที่สหรัฐฯ และยุโรป และพวกเรากำลังติดต่อพวกเขาอยู่ในตอนนี้ หลังจากที่พวกเราตกลงเสร็จสิ้นรายชื่อของโปรดิวเซอร์ที่วง Big Bang จะทำงานด้วยนี้แล้ว พวกเขาก็จะเริ่มทำงานอัลบั้มใหม่ของพวกเขาทันที”
     ยางฮยอนซอค (Yang Hyun Suk) กล่าวว่า “ตอนนี้พวกเราติดต่อกับประมาณ 10   โปรดิวเซอร์ที่รู้จักกันดีทั่วโลกเพื่อที่จะช่วยโปรดิวซ์อัลบั้มใหม่ให้กับพวกเขา ซึ่งวง 2NE1 เคยร่วมงานกับ Will.I.Am ไปแล้ว และวง Big Bang จะทำงานกับโปรดิวเซอร์ที่ดังคนอื่นของยุโรป เนื่องจากวง Big Bang นั้นมีโปรดิวเซอร์ในวงกันเองคือ G-Dragon ดังนั้นอัลบั้มก็จะได้เป็นความร่วมมือระหว่างโปรดิวเซอร์ต่างประเทศและ G-Dragon”

วันอังคารที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2554

บิ๊กแบง(Big Bang) ผงาด ส่งมินิอัลบั้มชุดที่ 4 ขึ้นอันดับ 2 ชาร์ตโอริกอนอย่างสวยงาม !!

         ตามที่ทางหน้าเว็บไซต์ของโอริกอนได้ขึ้นเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา            『BIGBANG 4TH MINI ALBUM Japan Edition』 ขึ้นอันดับ 2 ในชาร์ตประจำวันที่ 12 เมษายน หลักจากที่พวกเขาทำยอดขายได้ 3,454 ชุด หลังจากที่วางแผงเมื่อวันพุธที่ผ่านมา


   อันที่จริงแล้วอัลบั้มนี้มีกำหนดการจะวางแผงในวันที่ 30 มีนาคม แต่ก็ต้องถูกเลื่อนออกไปอันเนื่องมาจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา

  วงบิ๊กแบงมีคิวจะปล่อยซิงเกิ้ลญ๊่ปุ่นชุดที่สอง『BIGBANG 2』 ในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้ และจะเริ่มต้นเดินสายโปรโมททั่วประเทศในเดือนเดียวกันนี้ด้วย

   วงบิ๊กแบงเป็นวงบอยแบนด์ที่ประกอบไปด้วยสมาชิกทั้งหมด 5 คน ได้แก่ จีดราก้อน ท็อป ซึงรี แทยัง แดซอง ตั้งแต่ที่พวกเขาเริ่มเดบิวท์ตั้งแต่ปี 2006 ก็ได้ปล่อยเพลงฮิตออกมาหลายเพลง อาทิเช่น Lies และ HaruHaru

   พวกเขาเริ่มข้ามไปลุยตลาดเพลงในแดนปลาดิบตั้งแต่เมื่อช่วงเดือนมิถุนายน ปี 2009 ที่ผ่านมา ด้วยซิงเกิ้ลMy Heaven และได้ขึ้นถึงอันดับที่ 3 ในชาร์ตอันโด่งดังของประเทศญี่ปุ่นอย่าง โอริกอนชาร์ต และยังมีการเดินสายทัวร์คอนเสิร์ตไปยังสามเมืองใหญ่ท่ามกลางแฟนๆกว่าหกหมื่นคนอีกด้วย

   โดยการทัวร์คอนเสิร์ตที่เตรียมจะระเบิดขึ้นจะใช้ชื่อว่า Love & Hope Tour โดยจะเริ่มต้นที่ Osaka Castle Hall ในเมืองโอซาก้า ในวันที่ 10-11 พฤษภาคม เป็นที่แรก และเดินทางต่อไปยัง MakuhariMesse ในเมืองชิบะ ในวันที่ 13-15 พฤษภาคม และจบที่ Nippon Gaishi Hall ในเมืองนาโกย่า ในวันที่ 17-18 พฤษภาคม

วันเสาร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2554

ยางฮยอนซอคขอบคุณสมาชิกบิ๊กแบง

   ประธานบริษัท YG Entertainment ยางฮยอนซอคได้แสดงความขอบคุณของเขาต่อบิ๊กแบงสำหรับการต่อสัญญากับทางบริษัทอีก 5 ปี

ในเช้าวันที่ 7 เมษายน เขากล่าวผ่านทาง Star News ว่า
...


"ผมแค่อยากจะขอบคุณสมาชิกบิ๊กแบงทั้งห้าคนที่พวกเขาเชื่อมั่นในบริษัทของเราครับ พวกเราจะไม่ฉุดรั้งพวกเขาในการสนับสนุนของเรา เพื่อทำให้มั่นใจว่าพวกเขาจะนำเสนอเพลงที่น่าทึ่งให้แก่แฟนๆ

      คติพจน์ของ YG นั้นคือ มีความสัมพันธ์ที่เป็นเหมือนครอบครัวเดียวกันกับศิลปินทุกคน จีดรากอนและแทยังที่เป็นเด็กฝึกหักใน YG ตั้งแต่พวกเขายังอยู่ชั้นประถม     ศึกษา สมาชิกที่เหลือได้เข้ามาอยู่กับพวเราตั้งแต่พวกเขายังอายุน้อย พวกเขาเป็นเหมือนสมาชิกในครอบครัวของพวกเราจริงๆ โดยการต่อสัญญานี้ ทำให้ผมมีความรู้สึกแบบนั้นอีกครั้งหนึ่ง

   แฟนๆจะได้เห็นด้านใหม่ๆของพวกเขาผ่านทาง special edition album ในวันที่ 8 นี้ ผมอยากจะขอบคุณจริงๆถ้าพวกคุณจะยังให้ความสนใจในบิ๊กแบงต่อไป"

  วงบิ๊กแบงได้เดบิวต์ในปี 2006 และในห้าปีที่พวกเขาได้ผ่านมา แฟนๆก็ต่างคาดหวังกับอีกห้าปีข้างหน้า และอาจจะมากกว่าก็เป็นได้
------------------------------------------------------------------------

บิ๊กแบงเซ็นสัญญากับ YG Entertainment ต่ออีก 5ปี

    เมื่อวันที่ 7 เมษายน สมาชิกบิ๊กแบงทั้งหมดได้มีการต่อสัญญากับทางค่ายของพวกเขา YG Entertainment อีก5ปี

     โดยตัวแทนของวายจีได้เปิดเผยว่า “สมาชิกวงบิ๊กแบง ได้อยู่กับเรามา10ปีแล้ว นับตั้งแต่วันพวกเขาเป็นเด็กฝึกหัด ซึ่งพวกเขาก็เปรียบเสมือนครอบครัวของเรา พวกเรารู้สึกขอบคุณที่พวกเขาเชื่อและไ
ว้วางใจกับทางสังกัดของเราสำหรับการเปิดตัวอีกครั้งพวกเขา แต่ที่มากไปกว่านั้น พวกเรารู้สึกดีใจที่บิ๊กแบงจะสามารถอยู่กับแฟนๆของพวกเขาได้ยาวนานขึ้น”

    พวกเขายังกล่าวต่ออีกว่า “ความขัดแย้งมักจะเกิดขึ้นระหว่างกลุ่มไอดอลกับทางสังกัดของพวกเขาเวลา5ปีพอดีกับที่พวกเขาหมดสัญญา ปีนี้เป็นปีที่บิ๊กแบงจะครบรอบ5ปี แม้ว่าจะมีข่าวลือมากมาย แต่ในความเป็นจริงแล้ว พวกเขาไม่มีความขัดแย้งกันในกลุ่มหรือกับทางต้นสังกัดเลย พวกเขามีความเชื่อที่แข็งแกร่งและความไว้วางใจซึ่งกันจริงๆ”

    ในช่วงระยะเวลา 5ปีของบิ๊กแบง นอกเหนือจากกิจกรรมกลุ่มของพวกเขาแล้ว จีดราก้อน แทยังและซึงรี ก็ออกอัลบั้มเดี่ยวของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง ส่วนท๊อปก็เป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จกับการแสดงทั้งดราม่าและภาพยนตร์ และแดซองก็ประสบความสำเร็จในด้านละครเพลงและอัลบั้มเดี่ยวของเขา ที่เป็นที่รู้จักกันดีอีกด้วย

   
******************

ท็อปเข้าชิงรางวัลในงาน Baeksang Arts Awards ครั้งที่ 47

      ท็อปได้รับเสนอชื่อเข้าชิง “รางวัลนักแสดงชายหน้าใหม่” จากบทบาทของเขาในภาพยนตร์เรื่อง "71 Into The Fire" งาน Baeksang Arts Awards ครั้งที่ 47 ปี 2011 นี้จะจัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม เวลา 20.00 – 22.00 ตามเวลาในประเทศเกาหลี ที่ the Hall of Peace มหาวิทยาลัย Kyung Hee สามารถโหวตให้ศิลปินได้ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. – 23 พ.ค.
------------------------------------------------------------------------------------------

TOP ถึงกับลุกจากเตียงไม่ได้หลังได้ถ่ายภาพคู่กับ Lee Mi Sook

   ในรายการ “Come To Play" ตอนล่าสุด T.O.P ได้เล่าเรื่องน่าสนใจบางอย่างเกี่ยวกับการถ่ายภาพเซ็กซี่คู่กับนักแสดงหญิง Lee Mi Sook

    ย้อนกลับไปเมื่อเดือนสิงหาคม T.O.P. ได้รับงานถ่ายแบบคู่กับนักแสดงที่มีอายุห่างกันถึง 30 ปีให้กับนิตยสาร “Elle” เค้าได้เล่าถึงช่วงเวลาในตอนนั้นว่า “...
หลังจากที่เราถ่ายภาพกันเสร็จแล้ว เราก็ได้ไปกินข้าวด้วยกันครับ ผมกลับบ้านค่อนข้างมืดแล้วก็ตรงเข้าไปนอนเลยครับ แต่หลังจากนั้น 2 วันผมแทบจะลุกจากเตียงไม่ขึ้นเลย ผมก็ไม่รู้เหตุผลเหมือนกันว่าทำไม”

    เค้ายังกล่าวเสริมขึ้นมาพร้อมกับเสียงหัวเราะอีกว่า “ผมคงถูกเธอดูดพลังและวิญญาณไปด้วยแน่ๆ!”

     นอกจากนี้เค้ายังเปิดเผยเบื้องหลังกองถ่าย “Iris” และ “Into the Fire“ โปรดติดตามกันได้ในรายการ

**************************************

บิกแบงทำให้ชาวเน็ตและผู้จัดรายการเหนื่อยหน่ายเนื่องจากพวกเขาปฏิเสธจะขึ้นเวทีในรายการมิวสิคแบงค์

    แม้ว่าพวกเขาดูเหมือนจะประณีประนอมกันได้แล้วเมื่อเดือนก่อน แต่ KBS และ บิกแบงก็กลับมาสู่ความขัดแย้งกันอีกครั้ง เมื่อมีรายงานเมื่อเร็วๆ นี้ว่าบิกแบงปฏิเสธการออกรายการมิวสิคแบงค์

     ตัวแทนของรายการเปิดเผยแก่ Newsen ว่า "ก่อนที่พวกเขาจะมาบันทึกเทปรายการมิวสิคแบงค์ 1 วัน บิกแบงบอกกับผู้จัดว่าพวกเขาจะไม่มาออกรายการ เพราะพวกเขาไม่ได้เข้าชิงรางวัล K-Chart"

    เขากล่าวต่อไปว่า "2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ บิกแบงได้รับข้อตกลงว่าจะทำการแสดง 2 เพลง แต่หลังจากพบว่า ผู้เข้าชิงรางวัล 'K-Chart' คือ TVXQ และ K.Will พวกเขาก็เปลี่ยนใจทันทีและกล่าวว่า พวกเขาจะไม่มาร่วมรายการ"

     ในทางกลับกัน ตัวแทนของวายจีเอนเตอร์เทนเมนต์ได้แจ้งให้แฟนๆ ไปร่วมในการบันทึกเทปล่วงหน้าของบิกแบง แต่ หลังจากนั้น 'Music Bank' กลับแจ้งแฟนๆ ว่ายกเลิกแผนการดังกล่าวเนื่องจาก "เหตุผลส่วนตัวของศิลปิน" จบ

    ตัวแทนของฝ่ายออกอากาศรายการดนตรีกล่าวว่ามิวสิคแบงค์ได้เตรียมรายการพิเศษ 'Spring Special' ที่มีช่วงเวลาเพิ่มขึ้น เพื่อจัดการกับข้อขัดแย้งที่เคยมีในอดีตมิวสิคแบงค์ได้เสนอให้บิ๊กแบงมีการแสดง 2 เพลง และวายจีก็ตอบรับแล้ว อย่างไรก็ตาม 1 วันก่อนการบันทึกเทปรายการบิกแบงติดต่อมาและบอกว่าพวกเขาจะไม่มาออกรายการ ซึ่งตัวแทนของรายการถือว่าเป็นความไม่สุภาพ "พวกเขาพูดง่ายๆ ปฏิเสธการมาออกรายการ เพียงเพราะไม่ได้ชิงรางวัล K-Chart อย่างนั้นหรือ?"

  วายจีเอนเตอร์เทนเมนต์พยายามจะชี้แจงว่า "มีความเข้าใจผิดเกิดขึ้น" แต่ความเสียหายก็เกิดขึ้นไปแล้ว

   ตัวแทนของมิวสิคแบงค์ตอบว่า "เราไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้ว เกี่ยวกับเรื่องการแสดงในรายการมิวสิคแบงค์ของบิกแบง"

   ไม่ใช่เพียงแค่ KBS เท่านั้นที่ต้องเครียดกับปัญหานี้แต่ตัวแทนของบริษัทและรายการก็เช่นเดียวกัน พวกเขาแสดงให้เห็นว่าสูญเสียความเชื่อมั่นในบริษัทวายจีและบิกแบงเนื่องจากทัศนคติที่ไม่สนใจคนอื่นของพวกเขา และหลายคนสรุปว่าผู้ที่เสียหายจะเป็นบิกแบงเอง พวกเขาอาจที่จะ "ปฏิเสธการออกแสดงถ้าพวกเขาไม่ใช่ที่ 1"

    ผู้จัดรายการคนหนึ่งกล่าวว่า "โดยไม่มีเหตุผลที่พิเศษใดๆ การที่พวกเขายกเลิกงานเพียง 1 วันก่อนการบันทึกเทปนั้น เป็นเรื่องที่หยาบคายอย่างปฏิเสธไม่ได้ KBS ให้พวกเขาแสดง 2 เพลง แล้วทีนี้โปรดิวเซอร์รายการจะทำอย่างไร หลังจากนี้ต่อไป มันคงจะยากที่เราจะเชิญพวกเขามาออกรายการอีก เพราะไม่มีอะไรมารับประกันว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก"

     ตัวแทนของอีกบริษัทหนึ่งกล่าวว่า วายจีเอนเตอร์เทนเมนต์มุ่งไปที่การชนะมากเกินไป แต่สิ่งที่แฟนๆ ต้องการคือการแสดงไม่ใช่ชัยชนะ มีแฟนๆ ที่รอคอยการคัมแบคของบิ๊กแบงอยู่ แต่พวกเขาจะไม่มีโอกาสได้ชมการแสดงของบิกแบงมากเท่าที่เป็นไปได้ เนื่องจากความขัดแย้งระหว่างวายจีเอนเตอร์เทนเมนต์และสถานีโทรทัศน์ ทั้งสองฝ่ายต้องแก้ไขสาเหตุของความขัดแย้งและเลือกหนทางที่ดีที่สุด เพราะว่ามีความเป็นไปได้อย่างสูงที่แฟนๆ จะเบื่อหน่ายและหันหลังให้กับเรื่องนี้

Big Bang's "Stupid Liar" and "Baby Don't Cry Preview by Soompi [1/2]


Stupid Liar”

      เนื้อร้อง: G.Dragon ทำนอง: G.Dragon, Choi Pil-Kang เรียบเรียง: Choi Pil-Kang เนื้อร้องแร็พเพิ่มเติม T.O.P
...

    ทั้ง “Stupid Liar” และ “Tonight” ต่างถูกหยิบยกให้เป็นตัวเลือกสำหรับที่จะใช้เป็นเพลงโปรโมทในมินิอัลบัมที่4 ของบิกแบง ซึ่ง “Tonight” ดูจะเหมาะเจาะลงตัวกว่า เพราะเพลงใหม่ 3 เพลงเป็นเหมือนกับเพลงรักมากกว่าและอีกหลายๆเพลงที่เป็นจังหวะไม่เร็วมากนักที่อยู่ในมินิอัลบั

      เริ่มต้นด้วย “Stupid Liar” ท่อนเดียวกับทีเซอร์ที่ YGE ปล่อยออกมา จังหวะ pop rock ที่น่าดึงดูดและคุณภาพของดนตรีชวนให้นึกถึงเพลง “If We Ever Meet Again”ของ Timbaland และ Katie Perry

       ขณะ ที่จีดรากอนจบด้วยการพูด “Liar, liar liar, la. . .” จังหวะเปลี่ยนและจีดรากอน ร้อง “how could you be so, how could you be so. . .” ซ้ำๆ กัน ตามด้วยท่อนแร็พในแบบของเขาแต่ยังคงเสียงในโทนต่ำ แดซองรับช่วงต่อด้วยเสียงที่ทรงพลังของเขาขณะที่ท็อปแร็พด้วยซาวน์และจังหวะที่เป็นเอกลัษณ์เฉพาะตัวของเขา ดนตรีแบคกราวน์ส่งให้เสียงของแทยังเจิดจรัสออกมาเหมือนกับในเพลงเดี่ยวของเขา “Look at Me” ท่อนของซึงรีไม่โดดเด่นมากนักแต่ถูกผสมกลมกลืนไปกับคนอื่นๆในวง เสียงของเขากลืนไปกับแทยังทำให้แยกเสียงทั้งสองคนไม่ค่อยได้

    จากทั้ง 3 เพลงที่ฉันได้ฟังมา ฉันชอบเพลง “Stupid Liar” เห็นได้ชัดเจนเลยว่าทำไมเพลงนี้ถึงได้เป็นหนึ่งในตัวเลือกสำหรับเพลงไตเติ้ลในมินิอัลบัมที่ 4 บวกกับเพลงที่เพิ่มเข้ามาใหม่ทั้ง 3 เพลงบอกได้เลยว่าอัลบัมนี้สมบูรณ์แบบมาก มีทั้งเพลงจังหวะเร็ว ปานกลางและช้า เร้าอารมณ์ให้คึกคักหรือดึงดูดซาบซึ้ง มันเป็นอัลบัมที่ครบถ้วนสมบูรณ์จริงๆ อย่างเพลง “Love Song” มันแตกต่างจากเพลงอื่นๆ แต่พวกเขาทำมันออกมาได้ดีเยี่ยมซึ่งคุณจะต้องการฟังมากขึ้นๆด้วยความหลากหลายอย่างมีชั้นเชิงของพวกเขา

บิ๊กแบงลงทุนถึง $ 200000 เหรียญสหรัฐ สำหรับการถ่ายทำ MV ‘Love Song’


  บี๊กแบงได้รายงานว่า พวกเขาได้ลงทุนไปมากกว่า 200 ล้านวอน(ประมาณ 5 ล้านบาท) สำหรับอุปกรณ์การถ่ายทำมิวสิควีดิโอเพลง ‘Love Song’

 ในฉากของแต่ละคน ได้ถ่ายทำไว้เป็นระยะเวลาทั้งหมดของความยาวของเพลง ไม่เพียงเท่านี้ ทาง YG Entertainment ยังได้ใช้กล้องแบบ ‘4 point wire cam...
’ ซึ่งไม่เคยมีการนำมาใช้มาก่อนในเกาหลี ที่ซึ่งพวกเขาเคยใช้ในการถ่ายทำในก่อนหน้านี้ โดยใช้กราฟฟิคโปรแกรมจากต่างประเทศ

  อุปกรณ์เครื่องมือที่ทันสมัยสำหรับการถ่ายทำนี้ ยังรวมถึง การบินถ่ายภาพ, Jimmy Jib(เครนสำหรับการถ่ายภาพยนตร์,โทรทัศน์หรือตัวเสริมกล้อง), ระบบการควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้อง, ตัวควบคุมเครนกล้องจากระยะไกล, flying cams(เป็นกล้องที่ติดกับเครื่องบินเล็กๆที่ใช้รีโมทบังคับเพื่อถ่ายจากที่สูง) ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้มักจะใช้เฉพาะสำหรับการถ่ายภาพยนตร์ Hollywood และการถ่ายถอดโอลิมปิกเท่านั้น

และพื้นที่สำหรับการถ่ายทำครั้งนี้ ยังถูกกำหนดที่จะถ่ายในสนามโล่งกว้างบนเกาะแห่งหนึ่ง รวมทั้งจะมีการสร้างถนน2เลนสำหรับฉากหลังของมิวสิควีดิโอนี้อีกด้วย

สามารถติดตามกิจกรรมเต็มรูปแบบของบิ๊กแบงนี้ได้ในวันที่ 10 เมษายน นี้ ทาง SBS ‘Inkigayo’

5 เหตุผลที่ผู้คนต่างหลงรักบิ๊กแบง

   ยุคของเกิร์ลกรุ๊ปอย่างนั้นหรือ? อย่าพูดถึงมันเลย บิ๊กแบงต่างหากที่เป็นผู้นำ

     บิ๊กแบงไม่ใช่ไอดอลที่คุณสามารถพบเห็นได้ตามรายการวาไรตี้โชว์ทั่วไปหรือแม้แต่จะหาฟังได้ตามท้องถนน แต่เพลงของพวกเค้ากลับติดหูอย่างน่าประหลาด ในช่วงนี้ต่างมีข่าวลือและข้อถกเถียงเกี่ยวกับพวกเค้าเกิดขึ้นมากมายแต่พวกเค้าก้ไม่ใช่
พวกกก้าวร้าวรุนแรงเพราะพวกเค้าต่างก็ได้รับการสนับสนุนจากแฟนๆจำนวนมาก เฉกเช่นเดียวกับ ‘Seo Taiji and Boys’ และ ‘Girls Generation’.
      ในมุมมองของแฟนๆ บิ๊กแบงเป็นยิ่งกว่าผู้ส่งสารด้านความทันสมัยและผู้นำทางความคิดของกลุ่มวัยรุ่น นอกจากนี้พวกเค้ายังเป็นสัญลักษณ์ของ 2 สิ่งที่ต่างกันโดยสิ้นเชิงอย่าง ‘ความอยากรู้อยากลอง’ และ ‘ความเซ็กซี่ชวนหลงใหล’ ของโลกดนตรีป๊อบเลยทีเดียว จำนวนแฟนเพลงที่นับไม่ถ้วนของเขาคว้าในตอนนี้สามารถพิสูจน์ ‘ความเป็นอัจฉริยะ’ ของบิ๊กแบงได้เป็นอย่างดี
      บิ๊กแบงกลับมาพร้อมมินิอัลบั้มหลัง จากหายไปนาน 2 ปีกับเพลงเปิดตัวอย่าง ‘Tonight’ พวกเค้าทำลายสถิติมากมาย อีกทั้งยังครองตำแหน่ง 1-6 ตามชาร์ตเพลงต่างๆทั้ง Melon, Mnet และอื่นๆอีกมากมาย นอกจากนี้พวกเค้ายังที่ค้นหาเป็นอันดับ 1 ตามเว็บต่างๆและยังติดอยู่ใน ‘top 10′ ของ iTunes ในตลาดอเมริกาและแคนาดาด้วย
      ความยิ่งใหญ่ของพวกเค้ายังปรากฏผ่านการแสดงสดทุกครั้งบนเวที ไม่ว่าจะแสดงบนเวทีใดก็ตาม เวทีคัมแบ๊ค 1 ชั่วโมงของพวกเค้าที่ถูกถ่ายทอดผ่าน ทางช่อง SBS ในวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา และยังคอนเสิร์ต ‘Big Show’ ของพวกเค้าที่กินเวลากว่า 3 วันที่ Olympic Gymnastic Stadium… หนุ่มแบดบอยทั้งห้าได้แสดงให้เห็นถึงความสุดยอดในการแสดงที่ทำให้ทุกๆคนประทับใจในทุกๆที่ที่พวกเค้าเข้าร่วมจริงๆ

     นักวิจารณ์และผู้คลั่งไคล้ในวัฒนธรรมเคป๊อบได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนความเห็นและวิเคราะห์ 5 ปัจจัยที่ซ่อนอยู่ใน ‘Best Kpop Idol Star’ ที่ชื่อว่า Bigbang;

1. การโฆษณาที่ส่งผลกว้าง ไม่เพียงแต่แค่ในเกาหลีเท่านั้น
2. การจัดคอนเสิร์ตและการบริจาคเงิ
3. ความสามารถในการแต่งเพลงและสรรค์สร้างผลงานของตัวเอง
4. กล้าที่จะลองในสิ่งใหม่ๆ
5. สไตล์เพลง การแต่งตัว และการแสดงที่เป็นที่นิยมไปทั่วโลก

     ถ้าเรามองในมุมทั่วๆไปแล้ว กลยุทธ์ของพวกเค้าในบางครั้งก็ดูจะซับซ้อนและบางครั้งก็ดูจะไม่มีเล่ห์เหลี่ยมอะไรเลย บ่อยครั้งมันก็ดูเป็นอะไรที่งงๆเหมือนกัน มันเป็นการผสมผสานที่แปลกใหม่ระหว่างความเป็นมืออาชีพกับข้อได้เปรียบต่างๆ แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่เรารู้แน่ๆคือพวกเค้าเลือกเส้นทางที่จะเป็นนักดนตรีและก้าวไปสู่การเป็น ‘ไอดอลของโลก’ และนี่ล่ะคือความจริงที่จะเกิดขึ้

     พวกเค้าเป็นไอดอลกลุ่มแรกที่เลือกเส้นทางที่จะเป็นนักดนตรีอย่างแท้จริง เราไม่แน่ใจว่ามันเป็นเพราะรุ่นพี่ของพวกเค้าหรือไม่ โดยเฉพาะคนๆหน่งที่ใกล้ชิดกับพวกเค้ามากๆอย่างท่านประธาน Yang Hyun Suk

     แน่นอนว่าเส้นทางของพวกเค้าต้องไม่เหมือนกับรุ่นพี่ ไม่แน่ว่าสักวันนึงพวกเค้าอาจจะมีมุมมองใหม่ๆที่จะทำให้ตลาดเพลงเกาหลีขยายไปทั่วเอเชียและทั่วโลกก็เป็นได้

นี่คือเหตุผลที่ทำให้พวกเราสนใจในการกลับมาของบิ๊กแบง Bigbang.

********************************

บิ๊กแบงได้พูดถึงข่าวลือเรื่องการแยกวงของพวกเขา ในรายการ "come to play"

      ในวันที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมา สมาชิกของบิ๊กแบงได้เข้าร่วมเป็นแขกรับเชิญในรายการ “Come to Play“ ทางช่อง MBC และในที่ลุดก็ได้พูดถึงเรื่องข่าวลือว่าพวกเขาจะแยกวง
      ปีนี้เป็นปีที่ 5 ของพวกเขา ทุกครั้งที่มีสมาชิกในวงออกอัลบั้มเดี่ยว หรือออกอัลบั้มเป็นกลุ่มย่อย วงบิ๊กแบงต้องเ
ผชิญกับข่าวลือแบบไม่หยุดยั้งว่าพวกเขาจะแยกวง
     ไอ ดอลต่างรู้ดีถึง “อาถรรพ์ห้าปี” วง Seo Taiji and Kids แยกวงหลังจาก อยู่ด้วยกันมา 3 ปี กับอีก 9 เดือน วง H.O.T. แตกตัวหลังจาก 4 ปี 5 เดือน วง S.E.S.ก็แยกวงหลังจาก 5 ปี และ วง g.o.d. ก้แยกสลายไปหลังจาก 5 ปีเช่นกัน
     แดซอง ที่เข้าร่วมรายการเป็นพิเศษผ่านทางโทรศัพท์ อธิบายว่า “มันก็จริงนะครับที่สมาชิกหลายคนอยู่ในจุดที่ความเสี่ยง ที่อยากจะแยกวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอัลบั้มนี้ของพวกเรา พวกเราทุ่มเถียงกันเยอะมากในระหว่างการเตรียมงานอัลบั้มนี้ เพราะว่าพวกเราทุกคนต่างก็เคยผ่านการทำงานเดี่ยวหรือทำอัลบั้มย่อยกันมาแล้ว และตอนนี้พวกเราก็ต้องรับมือกับความคิดเห็นที่หลากหลายมากขึ้น”
     แทยัง เสริมต่อว่า “หลังจากสี่ปี พวกเราทุกคน ต่างก็ได้ทำงานเดี่ยวของตัวเอง มันทำให้พวกเราคิดอะไรที่เป็นเอกเทศมากขึ้น และทำให้เราได้ใช้เวลาด้วยกันน้อยลงๆ และผมรู้สึกว่าพวกเราต่างเติบโตขึ้นในรูปแบบที่แตกต่างกันไป ตอนนี้ ประธาน Yang Hyun Suk บอกพวกเราว่าเค้าไม่ชอบสิ่งที่พวกเราเป็นอยู่ตอนนี้เลย ผมเลยสงสัยว่า ถ้าหากว่าพวกเราสูญเสียจิตใจแบบมือใหม่ที่กระตือรือร้นไปแล้วละ
    ท๊อปกลาวว่า “พวกเรารู้สึกแย่เสมอครับเวลามีข่าวลือที่มีคนสร้างขึ้น และ เวลาที่มีคนมีมุมมองต่อเราเพียงด้านเดียว ”
     เมื่อถามถึงว่าพวกเขาเอาชนะอุปสรรค และกลายมาเป็นกลุ่มที่อยู่กันมายาวนานได้อย่างไร เหล่าสมาชิกตอบว่า พวกเขาไม่ได้มุ่งหวังที่เงินทองหรือชื่อเสียง และยืนหยัดในความเชื่อ ความหวัง ของตัวเอง และพวกเขาต่างก็ปกป้องสิทธิในการใช้ชีวิตส่วนตัว
     แดซองสรุปว่า “เพราะว่าพวกเรา เปรียบเสมือนครอบครัว ผมหวังว่าพวกเราจะสามารถรักษาความสัมพันธ์แบบพี่น้อง และ ความเป็นวงบิ๊กแบงของพวกเราไว้ได้อีกนาน นานแสนนาน”

น้ำตาลูกผู้ชายของ T.O.P ใน "come to play"

     นักร้องกลุ่มยอดนิยมอย่างบิ๊กแบง เพิ่งเป็นแขกรับเชิญตอนล่าสุดของรายการทางช่อง MBC รายการ Come to Play ซึ่งออกอากาศเมื่อวาน วันที่ 4 เมษายน
ในระหว่างการสัมภาษณ์ มีการเปิดจดหมายจากคุณแม่ และเมื่อเปิดจดหมายของแม่ T.O.P เมื่อเขาได้ยินเนื้อความในจดหมาย น้ำตาของเขาก็ยากแก่การควบคุม
...

    หลัง จากที่อ่านจดหมายจบ แขกรับเชิญถาม T.O.P สาเหตุที่ทำให้เขาร้องไห้ สิ่งแรกที่เขากล่าวคือ ขอโทษ ที่เขาอินกับมันมากเกินไป และเขาอธิบายต่อว่าเขาเป็นเด็กดื้อ เมื่อสมัยที่เขายังเรียนหนังสือ เขาได้สร้างปัญหาที่น่าหนักใจให้แก่พ่อแม่มากมาย ซึ่งเขารู้สึกเสียใจมาก
    หลังจากนั้น แขกรับเชิญ Yoo Jaesuk และ Kim Wonhee ขอร้องให้เขาฝากข้อความถึงแม่ ซึ่งเขากล่าวว่า "ผมรู้ว่าแม่ดูแลและเป็นห่วงผมมาโดยตลอด ผมต้องการให้แม่เห็นว่า ตอนนี้ผมปรับปรุงตัวเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์แล้วนะครับ ผมรักแม่ครับ "

********************

พรีวิวเพลง "Love Song" ของบิกแบงจาก Soompi

     YG Entertainment ได้ให้สิทธิพิเศษกับทาง Soompi ให้ฟังเพลงใหม่ที่กำลังจะปล่อยเร็วๆนี้ใน Big Bang Special Edition Album อัลบั้มจะวางแผงในสัปดาห์นี้ เพื่อที่จะพรีวิวตัวอย่างเพลงให้กับแฟนๆว่าจะได้พบกับอะไรบ้าง

      ก่อนที่เราจะเริ่ม สิ่งสำคัญคือจะพูดถึงมินิอัลบั้มที่ 4 ของบิกแบงด้วย เพื่อจะได้
เข้าใจเพลงใหม่ๆง่ายขึ้น ว่าอะไรคือสิ่งที่เราคาดหวังกัน? มันจะเจ๋งรึปล่าวนะ?

     การพูดว่าอะไรคือสิ่งที่พวกเราคาดหวังก็ยากพอๆกับการพรรณาถึงบิกแบงในซาวน์เพลงใหม่อันไพเราะซึงเราไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อน เพลงใหม่นั้นมันใช่เลย ทุกๆเพลงยังคงเล่นในไอพอดของฉัน แม้แต่เพลงอินโทรก็ด้วย และเพลงใหม่พวกนี้จะต้องดีขึ้นไปอีก ความหลากลายของเพลง จากเพลง ‘Tonight’ ถึงเพลง ‘Café’ แล้วก็เพลง ‘Somebody to Love’ ทั้งเสียงร้อง เสียงดนตรี และจังหวะของเพลงต่างก็มีลักษณะเฉพาะตัวและแสดงให้เห็นด้านใหม่ๆของบิกแบง ฉันรู้สึกทึ่งกับความหลากหลายและซาวน์เพลงอันยอดเยี่ยมที่บิกแบงได้สร้างขึ้น เพลงที่ฉันชอบคือเพลง ‘Lies,’ ‘Haru Haru,’ ‘Café,’ และ ‘Tonight,’ ฟังดูเหมือนกับว่าพวกเขามาจากกลุ่มศิลปินที่ต่างกันแต่มันได้แสดงความสามารถจริงๆของพวกเขาออก
า ดังนั้นอะไรคือสิ่งที่เราคาดหวังจากเพลง “Love Song” และ “Stupid Liar”? คุณจะต้องตะลึง เพราะมันเป็นอะไรที่มากกว่าความสามารถที่แท้จริงของพวกเขา


“Love Song”

Written by: G.Dragon, Teddy

Composed by: Teddy, G.Dragon

Arranged: Teddy

Additional Rap written by T.O.P

    เพลงแรกที่แนะนำให้เรารู้จักคือ เพลง “Love Song” จากเพลงไตเติลสองเพลงใหม่ของอัลบั้ม ฉันอึ้งไปเลยกับสไตล์เพลงเหมือนกับนำบิกแบงไปสู่ระดับที่เราไม่เคยได้ยินมาก่อน สิ่งที่โดดเด่นสำหรับฉันคือทำนองเพลง และจังหวะของเพลงทั้งหมด สำหรับฉันมันเหมือนกับสไตล์ pop/rock ที่ครอบคลุมจังหวะช้าๆของ U2 เสริมอยู่ในแบคกราวน์ของเพลง เป็นการผสมผสานที่น่าสนใจ แถมยังเพราะจับใจมากและเป็นเพลงที่น่าฟัง สไตล์กีตาร์อะคุสติกแบบ U2 เล่นอยู่ในเพลงทั้งหมดเป็นจังหวะของแบคกราวน์ ในเพลงนี้ใช้เสียงแนวอิเล็กทรอนิกส์เยอะซึ่งเป็นการผสมผสานที่น่าสนใจกับสไตล์ของ U2 กับจังหวะแบคกราวน์ของเพลง

BIGBANG SE "LOVE SONG" COUNTDOWN SPOT #1 ::
http://www.youtube.com/watch?v=GrbrCwpjWhA&feature=player_embedded


   สิ่งแรกที่พวกคุณได้ยินคือจังหวะของเพลงเริ่มที่ท็อป (จากทีเซอร์ตัวที่ 1 )ร้องในสไตล์การพูด ต่อด้วยเสียงอันทรงพลังของแดซอง (ในทีเซอร์ตัวที่ 2) จีดีจะร้องในคอรัสซ้ำๆว่า “I hate this love song, I hate this love song. . .” ท่อนของแทยังและซึงรีจะอยู่หลังจากท่อนคอรัสด้วยโทนเสียงสูงคล้ายๆกับสไตล์เดิมของเขา และตามด้วยเสียงของสมาชิกคนอื่นๆอย่างต่อเนื่องไปทั้งเพลง

BIGBANG SE "LOVE SONG" COUNTDOWN SPOT #2 ::
http://www.youtube.com/watch?v=S-gjR-vDsxE&feature=player_embedded


   ฉันชอบตอนเริ่มของเพลงที่ TOP ร้องในสไตล์การพูดบวกกับจังหวะของเพลง (แปล(ท่อนที่ท็อปร้อง) "หญิงสาวที่ห่างไกลออกไปเรื่อยๆและชายหนุ่มที่เริ่มร้องเพลง แต่..") เหมือนกับเพลงที่เราได้ฟังก่อนหน้านี้ สมาชิกต่างใช้ความเป็นเอกลักษณ์ในแต่ละท่อนที่ร้อง รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน แต่ละท่อนที่พวกเขาร้องช่วยเติมเต็มให้กันและกัน ท็อปและจีดีมีท่อนแร๊พที่่ต่างกัน ในขณะที่แทยังและซึงรีเน้นไปที่สไตล์การร้องที่มีเอกลักษณ์ของเขา ที่เราได้ยินจากเพลงของพวกเขาเอง เช่น “Wedding Dress” และ “What can I do” ทั้งหมดนี้ฉันชอบความแปลกใหม่ของเพลง จังหวะและสไตล์เพลงไม่ใช่อะไรที่ฉันคาดไว้แต่มันเหมือนกับเพลง “Café” คุณจะชอบมันขึ้นเรื่อยๆเช่นเดียวกับตอนที่คุณพบว่าตัวเองกำลังร้องเพลงคลอไปกับท่อนคอรัสนั้นอยู่ “I hate this love song, I hate this love song. . .”

ความรักของYG Family ^-^

สำหรับคนที่ยังไม่ได้ดูพาร์ทแรก
อันนี้พาร์ทแรกนะคะ
^http://www.youtube.com/watch?v=BRaXR_t9IWs&feature=related

SBS SPECIAL CONCERT ที่เกาะเจจู (110402)

บิกแบงจะทำการแสดงใน SBS SPECIAL CONCERT ที่เกาะเจจู (110402)


ตามที่โปรดิวเซอร์ Cho ได้ทวีตข้อความไว้นั้น บิกแบงได้เข้าร่วมคอนเสิร์ตของ SBS “Jeju 7 Natural Beauty Landscapes” ในวันที่ 24 เมษายนนี้ที่ยิม Halla ของเกาะเจจู ร่วมด้วยศิลปินอื่นๆ SNSD, TVXQ, 2PM and MBLAQ และมีเพียงประมาณ 2000 คนเท่านั้นที่ได้เข้าร่วมงานนี้

รางวัล “MOST POPULAR KOREAN ARTISTE”

    บิ๊กแบงได้รับรางวัล “MOST POPULAR KOREAN ARTISTE” จากงาน SINGAPORE ENTERTAINMENT AWARDS (110403)
ในวันที่ 2 เมษาที่ผ่านมา หนุ่มเซเว่นได้เข้าร่วมงาน “2011 Singapore Entertainment Awards (SEA)” และกลับบ้านพร้อมกับรางวัลอันทรงเกียรติทั้งของตัวเค้าเองและเพื่อนร่วมค่ายอย่างบิ๊กแบง


    งานนี้ถูกจัดขึ้นโดย Singapore Press Holdings Ltd., ซึงพิธีนี้ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทเอ็นเตอร์เม้นท์ของจีนและได้ให้รางวัลกับผู้มีความสามารถในด้านดนตรี, ภาพยนตร์, โทรทัศน์และวิทยุ รวมถึงผู้จัดคอนเสิร์ตอีกด้วย

    YG Entertainment เปิดเผยว่าเซเว่นได้รับรางวัล ‘Best Asia Performance’ ส่วนบิ๊กแบงนั้นชนะรางวัล ‘Most Popular Korean Artist’ ซึ่งคะแนนทั้งหมดมาจากการโหวตจากประชาชนทั่วไปและผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจดนตรีโดยเฉพาะ

     อย่างที่คาดไม่ถึงบิ๊กแบงไม่สามารถเข้าร่วมงานนี้ได้เพราะจากตารางงานที่มีอยู่เดิม

      ตัวแทนจาก YG Entertainment ได้แถลงข่าวว่า “ทั้งเซเว่นและบิ๊กแบงนั้นเพิ่งผ่านก้าวแรกของการตีตาดในประเทศจีนเท่านั้น รางวัลนี้สร้างความดีใจให้กับพวกเราม่าก พวกเราจะก้าวเดินต่อไปเพื่อให้มีการโปรโมทของพวกเค้าในประเทศจีนให้ได้”

*************************

วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554

ประวัติ Big bang

ควอน จียง
    ควอน จียง (เกาหลี 권지용; อังกฤษKwon Ji Yong) หรือ จี-ดรากอน (อังกฤษ: G-Dragon; เกาหลี: G드래곤) เป็นหัวหน้าวงบิ๊กแบง กลุ่มดนตรีจากประเทศเกาหลีใต้ หรือที่แฟนๆรู้จักในนาม GD หรือ G-dragon เป็นเด็กฝึกหัดในสังกัดวายจีมาตั้งแต่อายุ 12 ปี เคยร่วมแสดงกับศิลปินรุ่นพี่ในค่ายทั้งในอัลบั้มและในงานคอนเสิร์ตมากมาย
    จี-ดรากอน เกิดเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2531 กำลังศึกษาอยู่ที่ Seoul Korean Traditional Arts Middle & High School ในครอบครัวประกอบด้วยพ่อ แม่ และพี่สาวอีกหนึ่งคน จียงเป็นคนชอบเพลงแนวฮิปฮอป และการร้องแรพ เค้าร้องเพลงแรพเก่งตั้งแต่เด็ก เป็นคนที่แต่งตัวเก่งและรักการถ่ายรูปเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะรูปตัวเอง ชอบการแต่งตัวที่มีหมวก ซึ่งเขาชอบสะสมหมวกมากมีหมวกนับร้อยใบ นอกจากความสามารถด้านการแรพและบีทบอกซ์แล้ว จียงยังสามารถแต่งเพลงเองได้อีกด้วย โดยในซิงเกิ้ลแรกที่ออกมา จียงเป็นผู้แต่งเพลง This Love และ We belong together ร่วมกับท็อปเพื่อนร่วมวง จียงปรากฏตัวครั้งแรกเมื่อปี 2544 ในงาน DaeHanMinGook Hip Hop Flex โดยใช้ชื่อว่า จี-ดรากอน ซึ่งได้ดัดแปลงมาจากชื่อจริงคือ ควอน จียง โดยคำว่า ยง นั้น ในภาษาเกาหลีแปลว่า มังกร เมื่อนำมาร่วมกันก็จะได้คำว่า จี-มังกร หรือ จี-ดรากอน นั้นเอง จียงมีหน้าที่ในวงคือ หัวหน้าวง ร้องแรพ และแต่งเพลง จี-ดรากอนใฝ่ฝันที่จะเป็นนักดีไซน์เนอร์หลังจากที่ไม่ได้เป็นนักร้องแล้ว
 การศึกษา: Seoul Korean Traditional Arts Middle & High School , KyungHee University สาขา ดนตรีร่วมสมัย
เดบิวท์ : DaeHanMinGook Hip Hop Flex 2001
ตำแหน่ง : หัวหน้าวง, แร็ปเปอร์, นักร้องเสริม, โปรดิวเซอร์
    ผลงาน
  • สมัยเรียนประถมศึกษาเคยเป็น BoBoBo
  • ปี 2544 Korea’s hip hop flex
  • เคยร่วมงานใน
    • Perry’s first album
    • Lexy’s first album
    • 2002 YG family 2nd album, YMCA baseball program
    • Swi.T's first album
    • Se7en’s 1st and 3rd album
    • WheeSung’s first album
    • Masta Wu’s 1st album
    • YG family’s ONE concert
  • ปี 2552 อัลบั้มเดี่ยวอัลบั้มแรก [HEARTBREAKER]


   ท็อป (อังกฤษ: T.O.P) หรือในชื่อจริง ชเว ซึงฮยอง (เกาหลี: 최승현, ฮันจา: 崔勝鉉, MC: Choe Seung-hyeon, MR: Ch'oe Sŭnghyŏn) เป็นนักร้อง นักแต่งเพลงและนักแสดงชาวเกาหลีใต้ ท็อปเป็นหนึ่งในสมาชิกของวงบิ๊กแบง สังกัดค่ายวายจีเอ็นเตอร์เทนเมนต์ (อังกฤษ: YG Entertainment ) เป็นนักร้องที่มีอายุมากที่สุดภายในวง ทำหน้าที่เป็นคนร้องแร็ปคู่กับจี-ดรากอนในโทนเสียงต่ำ ท็อปมีความสามารถในการทำเพลงบีทบอกซ์ ก่อนหน้านี้ท็อปเคยร้องเพลงใต้ดินโดยใช้ชื่อว่าเทมโป คู่กับศิลปินรุ่นพี่ชื่อเอ็นบีเค ซึ่งภายหลังท็อปถูกชักชวนให้มาเดบิวท์ในรายการบิ๊กแบงดอคคิวเมนทารี่ (อังกฤษ: Big Bang Documentary) ผ่านทางสถานีโทรทัศน์กอมทีวี (อังกฤษ: Gom TV) ร่วมกับสมาชิกบิ๊กแบงโปรเจกต์ ประกอบด้วย จี-ดรากอน, แทยัง, แดซอง, ซึงริ และโซวัน อดีตสมาชิก
  
    ท็อป เกิดเมื่อวันพุธ ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2530 มีชื่อจริงคือ ชเว-ซึง-ฮยอน (เกาหลี: 최승현) เป็นบุตรชายคนเล็กของครอบครัว พ่อของท็อปทำงานเกี่ยวกับราชการในประเทศ ท็อปเป็นคนชอบการร้องเพลงแร็ป และบีทบอกซ์เป็นชีวิตจิตใจมาตั้งแต่เด็ก
   ชีวิตในวัยเด็ก
   ท็อป เกิดมาในครอบครัวที่อบอุ่นท่ามกลางความรักของทุกคน (พ่อ แม่ และพี่สาว) ท็อปรักการสะสมของเล่นเหมือนเด็กชายเกาหลีทั่วไป ชอบรับประทานขนมหวานและไอศกรีม เพราะเหตุนี้เองจึงทำให้ท็อปเป็นเด็กที่มีลักษณะอ้วนท้วนสมบูรณ์ ท็อปใฝ่ฝันเป็นศิลปินในสังกัดค่ายวายจีเอนเตอร์เทนเมนท์ แต่ต้องผิดหวังในการเดบิวท์ครั้งแรกเพราะน้ำหนักและบุคลิกภาพโดยรวมที่ดูตัวใหญ่มากเกินไป จนเป็นเหตุให้ท็อปพยายามที่จะลดน้ำหนักตัวเองลง หกเดือนหลังจากนั้น ท็อปจึงได้รับการตอบกลับจากค่ายวายจีเอนเตอร์เทนเมนท์ เพื่อเดบิวท์เป็นสมาชิกวงบิ๊กแบง
   ระหว่างที่ท็อปเรียนอยู่ช่วงมัธยมศึกษาตอนปลาย เคยทำงานเป็นนักร้องเพลงแร็ปใต้ดินอิสระที่ร้องเพลงในคลับและงานสังสรรค์ทั่วไป ชื่อของเขาคือเทมโป (อังกฤษ: tempo ) เขาเริ่มเป็นที่รู้จักจากเวทีการแข่งขันดวลแร็ปในงาน "KBS I like Radio" เมื่อปี พ.ศ. 2546 และนอกจากนี้ ยังเคยออกเพลงใต้ดินร่วมกับศิลปินรุ่นพี่ที่ชื่อเอนบีเค ในบทเพลง "Buckwild" เมื่อ พ.ศ. 2548 โดยออกเพียงแค่ฟอร์แมตเอ็มพีสามในสมัยนั้น
    หลังจากผ่านการเดบิวท์ ท็อปเป็นศิลปินในสังกัดวายจีเอนเตอร์เทนเมนท์อย่างเต็มตัว ท็อปได้รับฉายาจากเซเว่นว่า ที.โอ.พี. ซึ่งมาจากคำว่าท็อปในภาษาอังกฤษ: TOP หมายถึงตำแหน่งสูงสุดหรือสุดยอดแห่งการแร็ป ท็อปภูมิใจกับชื่อนี้ และถูกเรียกมาตลอดจากรุ่นพี่ทีมงานในค่าย

ชีวิตในมหาวิทยาลัย

  ท็อป ศึกษาอยู่ที่ Seoul ART College Majoring in Musical และในปี พ.ศ. 2550 ท็อปได้ยื่นใบสมัครเข้ามหาวิทยาลัย Dangook ในสาขาการแสดงและภาพยนตร์ เพียงแค่รูปถ่ายใบสมัคร ทำให้ท็อปได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในหมู่ชาวอินเทอร์เน็ต ผิวที่ดูเนียนสวยเหมือนผู้หญิง ทำให้ได้รับคำชมว่าเป็นบุคคลที่ดูดี นอกจากนี้ท็อปยังได้รับผลโหวตว่าเป็นบุคคลไอดอลที่มีคนอยากเป็นแฟนมากที่สุดสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยเกาหลีอีกด้วย
กรุ๊ปเลือด : บี
การศึกษา : Seoul Art College (Majoring in Musical), but switched to Dankook University สาขา ภาพยนตร์และการละคร
ตำแหน่ง : แร็ปเปอร์, นักร้องสนับสนุน

ผลงาน

ผลงานการแสดง

  • เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2550 ท็อปร่วมแสดงในมิวสิกวิดีโอ "Hello" ของ Red Roc สิ่งทำให้แฟนเพลงทุกคนตกใจเป็นอย่างมากคือ เขาโกนผมตัวเองในเอ็มวีจริง
  • เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2550 เขาผ่านการคัดตัวนักแสดงเรื่อง "I am Sam" เพื่อรับบทเป็น Chae Mu Shin เด็กหนุ่มเงียบๆ ที่ดูมีความเป็นเอกลักษณ์
  • เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 เริ่มทำหน้าที่เป็นพิธีกรรายการเพลงทางช่อง MBC ร่วมกับศิลปิน ซอนเย,โซฮี (สมาชิกวงวันเดอร์เกิลส์), เบรน (ฟลายทูเดอะสกาย) และ คังอิน (ซูเปอร์จูเนียร์)
  • เดือน มีนาคม พ.ศ. 2551 ท็อปร่วมแสดงมิวสิควิดีโอคู่กับซานดารา ศิลปินวง ทูเอนีวัน ในบทเพลง "มิ-อัน-เฮ-โย" (เกาหลี: 미안해요) เป็นเพลงของศิลปินร่วมค่าย Gummy และเพลงนี้ เป็นเพลงที่ท็อปร่วมขับร้องด้วย
  • เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2551 ร่วมแสดงในมิวสิควิดิโอเพลง D.I.S.C.O. ของ Uhm Jung Hwa ซึ่งท็อปเป็นผู้ร่วมขับร้องในเพลงนี้อีกเช่นกัน
  • เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2551 ท็อปถูกคัดเลือกให้เป็นนักแสดงหลักของเรื่อง "Iris" ในบทนักฆ่าที่ชื่อ Vick (วิค) ซึ่งกำหนดฉายในปี พ.ศ. 2552
  • เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 ภาพยนตร์เกาหลีแนวสืบสวนฆาตกรรมเรื่อง "19 (Nineteen)" ที่กล่าวถึงการตามล่าเด็กบริสุทธิ์ 3 คน ออกฉายสู่โรงภาพยนตร์ โดยท็อปได้รับบทเป็นนักแสดงนำร่วมกับซึงริ สมาชิกน้องเล็กของวงบิ๊กแบง
  • เดือน มิถุนายน พ.ศ. 2553 ภาพยนตร์แนวสงคราม "Into the Gunfire" ออกฉายสู่โรงภาพยนตร์ที่ประเทศญี่ปุ่น

ผลงานเพลง

  • ท็อปเริ่มมีเพลงเดี่ยวของตัวเองคือ Big Boy ซึ่งถูกรวมอยู่ในอัลบัม Volume 1 - Since 2007 ซึ่งเป็นอัลบัมแรกของวงบิ๊กแบง
  • ปี พ.ศ. 2550 บทเพลง "อา-มู-รอช-ชี-อา-นึน-ชอค" (เกาหลี: 아무렇지 않은 척 เพลงร้องเดี่ยวเพลงที่สองของเขา ได้คิมจีอุนร่วมเป็นคอรัส ถูกรวมอยู่ในมินิอัลบัมที่ชื่อ Always ก่อนจะถูกนำมา Remix อีกครั้ง ในงานแสดงคอนเสิร์ต Big Show 2009 Big Bang Concert Live เพื่อแฟนเพลงในปี พ.ศ. 2552
  • เดือน มกราคม พ.ศ. 2553 มิวสิควิดิโอเพลงแรกของท็อป "Turn it up" ถูกฉายให้แฟนเพลงชมเป็นครั้งแรกในการแสดง Big Show 2010 Big Bang Concert Live เพื่อเป็นตัวอย่างเรียกนำย่อยก่อนการเปิดตัวอัลบัมจริง
  • วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 มิวสิควิดิโอเพลง "Turn it up" ถูกเผยแพร่อย่างเป็นทางการที่เว็บไซต์ยูทูบ โดยการเปิดตัวเพลงโซ่โล่ครั้งนี้ ท็อปจะไม่มีการออกแสดงสดที่รายการโทรทัศน์ใดๆทั้งสิ้น
  • วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2553 ออกอัลบั้มคู่กับ จี-ดรากอน ในอัลบั้ม GD & TOP และออกซิงเกิ้ลแรกที่ชื่อ"High High"




แท ยัง
    แทยัง (อังกฤษ: Tae Yang; เกาหลี: 태양) เป็นสมาชิกวงบิ๊กแบง เป็นเด็กฝึกหัดของค่ายวายจีมา 6 ปี เช่นเดียวกับจี-ดรากอน มีประสบการณ์ทำงานร่วมกับศิลปินรุ่นพี่ในค่ายเดียวกันมาอย่างมากมาย ชื่อ แทยัง นั้น แปลว่าพระอาทิตย์ เดิมใช้ชื่อในวงการว่า YB แท-ควอน (อังกฤษ: YB Taekwon; เกาหลี: YB 태권) ในช่วงที่เป็นเด็กฝึกหัดของค่ายวายจี ทั้งจี-ดรากอนและแทยังเป็นที่รู้จักในนาม GDYB และมีแฟนเพลงมากมายถึงแม้ว่าจะไม่เคยมีอัลบั้มของตัวเอง แทยังนั้นตอนเด็กๆ มีหน้าที่เดินสายร้องแรพ แทนศิลปินรุ่นพี่ที่ไม่ว่างขึ้นเวทีหรือไปต่างประเทศ แต่ในวงบิ๊กแบง แทยังทำหน้าที่ร้องนำ ซึ่งแทยังมีน้ำเสียงที่ไพเราะอ่อนหวานมาก
     ประวัติ
    แทยัง เกิดเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2531 มีชื่อจริงว่า ทง ยองแบ (อังกฤษ: Dong Youngbae ; เกาหลี: 동영배) สมาชิกในครอบครัวประกอบไปด้วย พ่อ แม่ และพี่ชายอีกหนึ่งคน แทยังปรากฏตัวครั้งแรกในปี 2545 ในอัลบั้มที่ 2 ของ YG Family
กรุ๊ปเลือด : เอบี
เดบิวท์ : YG Family 2nd Album 2002
ตำแหน่ง : นักร้องเสียงหลัก, นักเต้นหลัก

ผลงาน

  • ตั้งแต่เรียนอยู่เกรด 5 เขาได้ไปเรียนการแสดง
  • ออดิชั่นเพื่อคัดเลือกนักแสดงมิวสิกวีดีโอของ JinuSean
  • แสดงมิวสิกวีดีโอของ A-yo เป็น JinuSean ตอนเด็ก
  • ออดิชั่นเพื่อเป็นศิลปินของค่าย YG หลังจากได้พบกับ JinuSean
  • 2545 ร่วมงานในอัลบั้มแรกของ Swit, อัลบั้มที่ 2 ของ YG family
  • 2546 มีผลงานในอัลบั้มที่ 2 ของ WheeSung, อัลบั้มแรกของ Masta Wu
  • 2547 อัลบั้มแรกของ Lexy
  • 2549 อัลบั้มที่ 3 ของ Se7en และได้ขึ้นคอนเสิร์ต YG family’s ONE
  • 2553 อัลบั้มเดี่ยว อัลบั้มแรก [SOLAR]
  • 2553 อัลบั้มพิเศษ Solar International


ชื่อในวงการ : Dae Sung (대성) ; D-Lite เดซอง
ชื่อจริง : Kang Dae Sung (강대성)คัง เดซอง
วันเกิด :
26 เมษายน ค.ศ. 1989 (อายุ 21 ปี)
ส่วนสูง : 179 ซม.
น้ำหนัก : 63 กิโลกรัม
กรุ๊ปเลือด : โอ
การศึกษา :
 KyeongIn High School , 

ตำแหน่ง : ร้องนำความสามารถพิเศษ : ร้องเพลง
ชอบ : แรป, Beat Box และทำอาหาร ศิลปินที่ชื่นชม : Usher, Omarion, Ne-Yo และ WheeSung
จุดมุ่งหมาย : ผมจะตั้งใจฝึกฝนอย่างเต็มที่ และจะทำออกมาให้ดีที่สุด
หญิงในอุดมคติ : ผมชอบผู้หญิงที่น่ารักเวลาที่เธอยิ้ม แล้วก็เป็นคนดูแลร่างกายสุขภาพดี ไม่ใช่เพราะห่วงสวย หรืออยากโชว์ แต่เป็นเพราะเธอใส่ใจในสุขภาพของเธอจริงๆ 

ซึง รี
     อี ซึงฮยอน (เกาหลี: 이승현; อังกฤษ: Lee SeungHyun) หรือ ซึงริ (เกาหลี: 승리; อังกฤษ:SeungRi) เป็นน้องเล็กประจำวงบิ๊กแบง กลุ่มดนตรีจากประเทศเกาหลีใต้ ชื่อเปิดตัวในนามบิ๊กแบงคือ V มาจากคำว่า Victory เหล่าทีมงานในค่ายวายจีเรียกว่า 'มักเน่' ที่แปลว่า คนเล็ก และทำหน้าที่ร้องนำ
    ประวัติ
     ซึงริเคยเข้าร่วมในรายการBattle Shinwha รายการที่ค้นหาชินฮวารุ่นที่2 แต่ถูกคัดออกไปในEpisodeที่13 เนื่องจากเหตุผลที่ว่า ถึงแม้จะเต้นเก่งมากๆ แต่การร้องเพลงยังใช้ไม่ได้แต่ท่านประธานยางฮยอนซอกของวายจีเห็นแวว จึงได้รับตัวเข้ามาฝึกหัดในสังกัดวายจี โดยท่านประธานได้พูดถึงเรื่องนี้ไว้ว่า ซึงริอายุยังน้อย และยังไม่เคยได้รับการฝึก เชื่อว่าถ้าได้รับการฝึกฝนจะต้องทำได้ดี ความสามารถที่โดดเด่นของซึงริอยู่ที่การเต้นและการออกแบบท่าเต้น
กรุ๊ปเลือด : เอ
การศึกษา : ChungAng University สาขา Performing Arts and Film
ตำแหน่ง : นักร้องนำ, นักเต้นนำ

ผลงาน

ซิงเกิล

  • "The Next Day" (Seungri solo) (2008)
  • "Strong Baby" featuring G-Dragon (2009)
  • "What Can I Do" (2011)
  • "VVIP" (2011)

 ละครเวที

  • Sonagi (2008)
  • Shouting (2009)

ภาพยนตร์

  • Why Did You Come to My House? (2009)
  • Nineteen (2009)


ที่มา/ http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B9%8A%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%87_(%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B5)