ผู้ชนะชาร์ต K-Chart ประจำสัปดาห์ยังไม่ได้ประกาศในตอนที่ 600 ของรายการ Music Bank เมื่อศุกร์ที่แล้ว แต่ผลได้ประกาศผ่านทางเวบไซท์ในวันที่ 25 เมษายน วง Big Bang เป็นผู้ชนะ K-Chart ด้วยเพลง Love Song จากอัลบั้มรีแพคเก็จของพวกเขา ซึ่งคะแนนของพวกเขาคือ 10,757 และวง C.N.Blue มีคะแนน 10,030
เดิมทีที่วง Big Bang มีแผนงานที่จะแสดงทัวร์คอนเสิร์ตในเดือนพฤษภาคม แต่แผนงานได้ถูกเปลี่ยนแปลง ทาง YG Entertainment เพิ่งประกาศว่า พวกเขาจะเลื่อนการแสดงทัวร์คอนเสิร์ตที่โตเกียวและโยโกฮาม่า
ตัวแทนของทาง YG กล่าวกับทาง Star News ว่า “เพื่อเป็นการสนับสนุนแฟนๆ ชาวญี่ปุ่น หลังจากที่เกิดภัยธรรมชาติในเดือนมีนาคม สมาชิกวง Big Bang ตั้งใจจริงในการที่จะยังคงจัดคอนเสิร์ตนี้ แต่โชคไม่ดีที่ After Shock นี้ พวกเราจึงให้ความสนใจตามที่แฟนๆเกาหลีเป็นห่วงในความปลอดภัยวง Big Bang ดังนั้นจึงจะมีการเลื่อน”
พวกเขากล่าวเพิ่มว่า “ที่โอซาก้า, ชิบะ และนาโงย่า บัตรถูกจำหน่ายหมดแล้วและเพื่อที่จะรักษาที่ให้กับแฟนๆและวง Big Bang ตัดสินใจที่จะเปิดคอนเสิร์ต ตัวแทนของพวกเราจะไปที่คอนเสิร์ตอีก 2 ครั้งเพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและการปกป้องดูแลที่เหมาะสม”
วง Big Bang ประกาศเกี่ยวกับแผนสำหรับอัลบั้มใหม่อีกอัลบั้ม
ในวันที่ 17 มีนาคมที่ตัวแทนของ YG Entertainment กล่าวกับทาง Star News ว่า “วง Big Bang จะกำลังโปรโมทที่เกาหลีเยอะมากในปีนี้ และตอนนี้กำลังเตรียมตัวสำหรับอัลบั้มใหม่เพื่อเซอร์ไพร์สแฟนๆ” ทาง YGE เปิดเผยว่า วง Big Bang กำลังวางแผนที่จะเข้าไปอัดบันทึกเสียงที่สตูดิโออีกครั้งทันทีที่พวกเขาปิดการโปรโมทเพลง Tonight และจะเริ่มทัวร์คอนเสิร์ตที่ประเทศญี่ปุ่น และมีข่าวรายงานออกมาว่า พวกเขากำลังร่วมมือทำงานกับโปรดิวเซอร์ระดับอินเตอร์อีกด้วย ตัวแทนกล่าวเพิ่มว่า “แฟนๆ เพลงจะสามารถรู้จักโปรดิวเซอร์เหล่านี้ทันทีที่เอ่ยชื่อออกมา พวกเขาเป็นที่รู้จักดีทั้งที่สหรัฐฯ และยุโรป และพวกเรากำลังติดต่อพวกเขาอยู่ในตอนนี้ หลังจากที่พวกเราตกลงเสร็จสิ้นรายชื่อของโปรดิวเซอร์ที่วง Big Bang จะทำงานด้วยนี้แล้ว พวกเขาก็จะเริ่มทำงานอัลบั้มใหม่ของพวกเขาทันที”
ยางฮยอนซอค (Yang Hyun Suk) กล่าวว่า “ตอนนี้พวกเราติดต่อกับประมาณ 10 โปรดิวเซอร์ที่รู้จักกันดีทั่วโลกเพื่อที่จะช่วยโปรดิวซ์อัลบั้มใหม่ให้กับพวกเขา ซึ่งวง 2NE1 เคยร่วมงานกับ Will.I.Am ไปแล้ว และวง Big Bang จะทำงานกับโปรดิวเซอร์ที่ดังคนอื่นของยุโรป เนื่องจากวง Big Bang นั้นมีโปรดิวเซอร์ในวงกันเองคือ G-Dragon ดังนั้นอัลบั้มก็จะได้เป็นความร่วมมือระหว่างโปรดิวเซอร์ต่างประเทศและ G-Dragon”
เริ่มต้นด้วย “Stupid Liar” ท่อนเดียวกับทีเซอร์ที่ YGE ปล่อยออกมา จังหวะ pop rock ที่น่าดึงดูดและคุณภาพของดนตรีชวนให้นึกถึงเพลง “If We Ever Meet Again”ของ Timbaland และ Katie Perry
ขณะ ที่จีดรากอนจบด้วยการพูด “Liar, liar liar, la. . .” จังหวะเปลี่ยนและจีดรากอน ร้อง “how could you be so, how could you be so. . .” ซ้ำๆ กัน ตามด้วยท่อนแร็พในแบบของเขาแต่ยังคงเสียงในโทนต่ำ แดซองรับช่วงต่อด้วยเสียงที่ทรงพลังของเขาขณะที่ท็อปแร็พด้วยซาวน์และจังหวะที่เป็นเอกลัษณ์เฉพาะตัวของเขา ดนตรีแบคกราวน์ส่งให้เสียงของแทยังเจิดจรัสออกมาเหมือนกับในเพลงเดี่ยวของเขา “Look at Me” ท่อนของซึงรีไม่โดดเด่นมากนักแต่ถูกผสมกลมกลืนไปกับคนอื่นๆในวง เสียงของเขากลืนไปกับแทยังทำให้แยกเสียงทั้งสองคนไม่ค่อยได้
YG Entertainment ได้ให้สิทธิพิเศษกับทาง Soompi ให้ฟังเพลงใหม่ที่กำลังจะปล่อยเร็วๆนี้ใน Big Bang Special Edition Album อัลบั้มจะวางแผงในสัปดาห์นี้ เพื่อที่จะพรีวิวตัวอย่างเพลงให้กับแฟนๆว่าจะได้พบกับอะไรบ้าง
สิ่งแรกที่พวกคุณได้ยินคือจังหวะของเพลงเริ่มที่ท็อป (จากทีเซอร์ตัวที่ 1 )ร้องในสไตล์การพูด ต่อด้วยเสียงอันทรงพลังของแดซอง (ในทีเซอร์ตัวที่ 2) จีดีจะร้องในคอรัสซ้ำๆว่า “I hate this love song, I hate this love song. . .” ท่อนของแทยังและซึงรีจะอยู่หลังจากท่อนคอรัสด้วยโทนเสียงสูงคล้ายๆกับสไตล์เดิมของเขา และตามด้วยเสียงของสมาชิกคนอื่นๆอย่างต่อเนื่องไปทั้งเพลง
ฉันชอบตอนเริ่มของเพลงที่ TOP ร้องในสไตล์การพูดบวกกับจังหวะของเพลง (แปล(ท่อนที่ท็อปร้อง) "หญิงสาวที่ห่างไกลออกไปเรื่อยๆและชายหนุ่มที่เริ่มร้องเพลง แต่..") เหมือนกับเพลงที่เราได้ฟังก่อนหน้านี้ สมาชิกต่างใช้ความเป็นเอกลักษณ์ในแต่ละท่อนที่ร้อง รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน แต่ละท่อนที่พวกเขาร้องช่วยเติมเต็มให้กันและกัน ท็อปและจีดีมีท่อนแร๊พที่่ต่างกัน ในขณะที่แทยังและซึงรีเน้นไปที่สไตล์การร้องที่มีเอกลักษณ์ของเขา ที่เราได้ยินจากเพลงของพวกเขาเอง เช่น “Wedding Dress” และ “What can I do” ทั้งหมดนี้ฉันชอบความแปลกใหม่ของเพลง จังหวะและสไตล์เพลงไม่ใช่อะไรที่ฉันคาดไว้แต่มันเหมือนกับเพลง “Café” คุณจะชอบมันขึ้นเรื่อยๆเช่นเดียวกับตอนที่คุณพบว่าตัวเองกำลังร้องเพลงคลอไปกับท่อนคอรัสนั้นอยู่ “I hate this love song, I hate this love song. . .”
บิ๊กแบงได้รับรางวัล “MOST POPULAR KOREAN ARTISTE” จากงาน SINGAPORE ENTERTAINMENT AWARDS (110403) ในวันที่ 2 เมษาที่ผ่านมา หนุ่มเซเว่นได้เข้าร่วมงาน “2011 Singapore Entertainment Awards (SEA)” และกลับบ้านพร้อมกับรางวัลอันทรงเกียรติทั้งของตัวเค้าเองและเพื่อนร่วมค่ายอย่างบิ๊กแบง
YG Entertainment เปิดเผยว่าเซเว่นได้รับรางวัล ‘Best Asia Performance’ ส่วนบิ๊กแบงนั้นชนะรางวัล ‘Most Popular Korean Artist’ ซึ่งคะแนนทั้งหมดมาจากการโหวตจากประชาชนทั่วไปและผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจดนตรีโดยเฉพาะ
ท็อป ศึกษาอยู่ที่ Seoul ART College Majoring in Musical และในปี พ.ศ. 2550 ท็อปได้ยื่นใบสมัครเข้ามหาวิทยาลัย Dangook ในสาขาการแสดงและภาพยนตร์ เพียงแค่รูปถ่ายใบสมัคร ทำให้ท็อปได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในหมู่ชาวอินเทอร์เน็ต ผิวที่ดูเนียนสวยเหมือนผู้หญิง ทำให้ได้รับคำชมว่าเป็นบุคคลที่ดูดี นอกจากนี้ท็อปยังได้รับผลโหวตว่าเป็นบุคคลไอดอลที่มีคนอยากเป็นแฟนมากที่สุดสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยเกาหลีอีกด้วย กรุ๊ปเลือด : บี การศึกษา : Seoul Art College (Majoring in Musical), but switched to Dankook University สาขา ภาพยนตร์และการละคร ตำแหน่ง : แร็ปเปอร์, นักร้องสนับสนุน
ผลงาน
ผลงานการแสดง
เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2550 ท็อปร่วมแสดงในมิวสิกวิดีโอ "Hello" ของ Red Rocสิ่งทำให้แฟนเพลงทุกคนตกใจเป็นอย่างมากคือ เขาโกนผมตัวเองในเอ็มวีจริง
เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2550 เขาผ่านการคัดตัวนักแสดงเรื่อง "I am Sam" เพื่อรับบทเป็น Chae Mu Shin เด็กหนุ่มเงียบๆ ที่ดูมีความเป็นเอกลักษณ์
เดือน มิถุนายน พ.ศ. 2553 ภาพยนตร์แนวสงคราม "Into the Gunfire" ออกฉายสู่โรงภาพยนตร์ที่ประเทศญี่ปุ่น
ผลงานเพลง
ท็อปเริ่มมีเพลงเดี่ยวของตัวเองคือ Big Boy ซึ่งถูกรวมอยู่ในอัลบัม Volume 1 - Since 2007 ซึ่งเป็นอัลบัมแรกของวงบิ๊กแบง
ปี พ.ศ. 2550 บทเพลง "อา-มู-รอช-ชี-อา-นึน-ชอค" (เกาหลี: 아무렇지 않은 척 เพลงร้องเดี่ยวเพลงที่สองของเขา ได้คิมจีอุนร่วมเป็นคอรัส ถูกรวมอยู่ในมินิอัลบัมที่ชื่อ Always ก่อนจะถูกนำมา Remix อีกครั้ง ในงานแสดงคอนเสิร์ต Big Show 2009 Big Bang Concert Live เพื่อแฟนเพลงในปี พ.ศ. 2552
เดือน มกราคม พ.ศ. 2553 มิวสิควิดิโอเพลงแรกของท็อป "Turn it up" ถูกฉายให้แฟนเพลงชมเป็นครั้งแรกในการแสดง Big Show 2010 Big Bang Concert Live เพื่อเป็นตัวอย่างเรียกนำย่อยก่อนการเปิดตัวอัลบัมจริง